ตรวจมะเร็งเต้านม แมมโมแกรมสำคัญแค่ไหน?

breast-cancer-screening-importance

“มะเร็งเต้านมอาจไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น แต่เทคโนโลยีตรวจสามารถมองเห็นได้ก่อนที่คุณจะรู้สึก”

ทำไมต้องตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่พบมากที่สุดในผู้หญิงไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโรคมะเร็งในเพศหญิงแต่ข่าวดีคือ ถ้าตรวจพบในระยะแรก โอกาสหายขาดมีมากกว่า 90%(ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ, 2566)

สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนพลาดโอกาสนี้คือ “ความกลัว” และ “ความเข้าใจผิด” ว่าการตรวจแมมโมแกรมเจ็บมาก หรือมีรังสีอันตรายในความจริง — การตรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ปลอดภัย และเป็นวิธีเดียวที่ช่วยตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ

แมมโมแกรมคืออะไร

แมมโมแกรม (Mammogram) คือการถ่ายภาพรังสีเอกซ์ของเต้านมเพื่อค้นหาความผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้อ แคลเซียมหรือการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อ

เทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ใช้กันแพร่หลายคือDigital Breast Tomosynthesis (3D Mammogram)ซึ่งสามารถถ่ายภาพหลายมุมและรวมเป็นภาพสามมิติทำให้ตรวจเห็นความผิดปกติได้แม้ในเต้านมที่มีเนื้อแน่น เช่นในผู้หญิงเอเชีย

💬 พูดง่าย ๆ คือ แมมโมแกรม 3 มิติ มองเห็นได้ลึกกว่าและชัดกว่าการตรวจแบบเดิม

ใครบ้างที่ควรตรวจ

กลุ่ม	อายุ	ความถี่แนะนำ	หมายเหตุ
ทั่วไป	40 ปีขึ้นไป	ทุก 1–2 ปี	ตรวจแมมโมแกรม + อัลตร้าซาวด์
กลุ่มเสี่ยงสูง	30–39 ปี	ทุกปี	ญาติสายตรงเคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือรังไข่
ผู้ใช้ฮอร์โมน / ยาคุมระยะยาว	ทุกช่วงอายุ	ตามแพทย์แนะนำ	ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ผู้หญิงที่มีอาการผิดปกติ เช่น คลำเจอก้อน หัวนมหด หรือมีของเหลวไหล ควรเข้ารับการตรวจทันทีไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงรอบประจำปี

แมมโมแกรมเจ็บไหม? อันตรายไหม?

นี่คือคำถามยอดฮิตของผู้หญิงเกือบทุกคนคำตอบคือ “ไม่เจ็บมากอย่างที่คิด”อาจรู้สึกแน่นเล็กน้อยช่วงที่เครื่องกดเต้านมเพื่อให้ภาพชัดที่สุดใช้เวลาเพียง 5–10 วินาทีต่อข้างเท่านั้น

รังสีที่ใช้มีปริมาณน้อยมาก และปลอดภัยแม้ตรวจซ้ำทุกปีเครื่องรุ่นใหม่ยังออกแบบให้แรงกดพอดี ลดความไม่สบายได้ถึง 30%(อ้างอิง: Mayo Clinic, Breast Cancer Screening Guidelines 2023)

อย่าปล่อยให้ความกลัว ทำให้คุณพลาดโอกาสป้องกันโรคตั้งแต่ระยะแรก

ขั้นตอนการตรวจแมมโมแกรม

ลงทะเบียนและตอบแบบสอบถามสุขภาพ
เปลี่ยนเสื้อเป็นชุดสำหรับตรวจเฉพาะ
เจ้าหน้าที่จัดท่าทางและวางเต้านมบนเครื่องตรวจ
เครื่องจะกดเบา ๆ เพื่อให้เห็นเนื้อเยื่อชัดที่สุด
รอผลวิเคราะห์จากรังสีแพทย์เฉพาะทาง

🩷 ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีตั้งแต่เริ่มจนจบขั้นตอน และไม่ต้องงดอาหาร

ข้อดีของการตรวจแมมโมแกรม

ตรวจพบก้อนเนื้อขนาดเล็กกว่า 1 เซนติเมตร (ก่อนคลำเจอได้หลายเดือน)
ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมได้กว่า 30%
ประเมินเนื้อเยื่อเต้านมและวางแผนรักษาได้แม่นยำ
ใช้ได้ทั้งในผู้หญิงทั่วไปและผู้ที่เคยรักษามะเร็งมาก่อน

แผนภาพแสดงการทำงานของแมมโมแกรม 3 มิติ

เตรียมตัวก่อนตรวจอย่างไร

สวมเสื้อผ้าชิ้นบนที่ถอดง่าย (แยกชิ้นจากกางเกง)
งดใช้โลชั่น แป้ง หรือสเปรย์บริเวณหน้าอกและรักแร้ในวันตรวจ
แจ้งเจ้าหน้าที่หากตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
ควรตรวจหลังหมดประจำเดือน 7 วัน เพื่อให้เต้านมนุ่มและไม่เจ็บ

💡 อย่าลืมพกผลการตรวจครั้งก่อนมาด้วย เพื่อให้แพทย์เปรียบเทียบได้อย่างแม่นยำ

ประกันสุขภาพแบบไหนคุ้มจริง? 5 เกณฑ์เลือกฉบับเข้าใจง่าย

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของการตรวจ 3D Mammogram

ประเภทการตรวจ	รายละเอียด	ช่วงราคาโดยประมาณ (บาท)
แมมโมแกรม 2 มิติ (2D)	แบบมาตรฐานทั่วไป ใช้ในหลายรพ.รัฐและเอกชน	1,000 – 2,500 บาท
แมมโมแกรม 3 มิติ (Digital Breast Tomosynthesis)	ตรวจละเอียดมากขึ้น เหมาะกับผู้มีเนื้อเต้านมหนาแน่น	3,000 – 6,000 บาท
แมมโมแกรม + อัลตราซาวด์เต้านม (Ultrasound)	ใช้คู่กันเพื่อความแม่นยำสูงสุด	4,000 – 7,000 บาท
แพ็กเกจตรวจสุขภาพเต้านม (รวมพบแพทย์ / ผลอ่านฟิล์ม)	รวมทุกขั้นตอนในครั้งเดียว	5,000 – 9,000 บาท

💡 หมายเหตุ: ราคาขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล (รัฐ / เอกชน) และจังหวัด ในโรงพยาบาลรัฐบางแห่งอาจมีสิทธิ์ เบิกได้บางส่วน (เช่น สิทธิ์ข้าราชการ หรือประกันสังคม กรณีแพทย์สั่ง) ส่วนเอกชนมักมี โปรโมชันหรือแพ็กเกจรายปี สำหรับการตรวจสุขภาพเต้านมโดยเฉพาะ

7 วิธีดูแลเต้านมให้แข็งแรง ป้องกันมะเร็งได้ทุกวัน

อัปเดตเทคโนโลยีใหม่ 2025 รักษามะเร็งเต้านม

สรุปให้เข้าใจง่าย

แมมโมแกรม 3 มิติ มีราคาสูงกว่าแบบ 2 มิติเล็กน้อย (เฉลี่ยเพิ่ม 1,000–3,000 บาท)
แต่ให้ ความแม่นยำสูงกว่า โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุ 40+ ที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่น
เหมาะกับการตรวจ ปีละครั้ง เพื่อการเฝ้าระวังมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น