
มะเร็งปากมดลูก : รู้ก่อน ป้องกันได้ด้วยวัคซีนและการตรวจ Pap Smear
cervical-cancer-prevention-and-screening

“เพราะการป้องกันที่ดีที่สุด คือการรู้เท่าทันและตรวจให้เร็วกว่าโรค”
กำเนิดมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเซลล์บริเวณ “ปากมดลูก” (ส่วนล่างสุดของมดลูกที่เชื่อมกับช่องคลอด)ที่มีการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นเซลล์ผิดปกติ และค่อย ๆ พัฒนาเป็นมะเร็งในระยะเวลา 5–10 ปี
สาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus)ซึ่งติดต่อผ่านการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์
มะเร็งปากมดลูก “ป้องกันได้เกือบ 100%”ด้วยการฉีดวัคซีน HPV และตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ
🔍 สาเหตุและ ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
สาเหตุหลัก
การติดเชื้อไวรัส HPV ชนิดเสี่ยงสูง (HPV 16 และ 18)
การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย หรือมีคู่นอนหลายคน
การสูบบุหรี่ ซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง
ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เช่น ผู้ป่วย HIV)
ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม
ไม่เคยตรวจ Pap Smear
ขาดการดูแลสุขภาพและการฉีดวัคซีน HPV
สถิติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มะเร็งปากมดลูกคร่าชีวิตผู้หญิงกว่า 300,000 คนต่อปีทั่วโลก แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจและฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุน้อย
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
1️⃣ Pap Smear (แป๊ปสเมียร์)
การเก็บเซลล์จากปากมดลูกเพื่อตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ก่อนกลายเป็นมะเร็งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เจ็บน้อย และเป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก
2️⃣ HPV DNA Test
ตรวจหาเชื้อไวรัส HPV โดยตรงในระดับ DNAสามารถตรวจพบเชื้อได้ก่อนที่เซลล์จะเริ่มผิดปกติหากทำควบคู่กับ Pap Smear จะเพิ่มความแม่นยำในการตรวจมากกว่า 90%
แนะนำให้ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ตรวจ Pap Smear หรือ HPV DNA อย่างน้อยทุก 3 ปี
💉 วัคซีน HPV: ป้องกันได้ก่อนเป็น
วัคซีน HPV เป็นวัคซีนที่ใช้ป้องกันเชื้อไวรัส HPV ชนิดเสี่ยงสูงที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก รวมถึงมะเร็งช่องคลอดและทวารหนัก
ใครควรฉีด
เด็กหญิงและเด็กชายอายุ 9–14 ปี (ช่วงก่อนมีเพศสัมพันธ์)
ผู้หญิงอายุไม่เกิน 26 ปีที่ยังไม่เ คยติดเชื้อ HPV
ผู้ใหญ่สามารถฉีดได้เช่นกัน แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
วัคซีนมีทั้งชนิด 2 สายพันธุ์, 4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์ซึ่งครอบคลุมเชื้อ HPV ชนิดที่พบบ่อยที่สุด
WHO แนะนำให้ฉีดวัคซีน HPV ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกกว่า 90%
การรักษามะเร็งปากมดลูก
การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคในระยะเ ริ่มต้น แพทย์อาจรักษาโดยผ่าตัดเฉพาะจุดส่วนระยะลุกลามอาจใช้รังสีรักษาและเคมีบำบัดร่วมกัน
แนวทางการรักษาที่ใช้ในปัจจุบัน ได้แก่
การผ่าตัด (Surgery): ตัดเฉพาะส่วนที่มีเซลล์มะเร็ง
รังสีรักษา (Radiation Therapy): ใช้รังสีทำลายเซลล์มะเร็ง
เคมีบำบัด (Chemotherapy): ใช้ยาเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของมะเร็ง
ยามุ่งเป้าและภูมิคุ้มกันบำบัด: เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและผลข้างเคียงน้อยลง
การรักษาในระยะเริ่มต้นสามารถหายขาดได้มากกว่า 90%
การป้องกันที่ได้ผลที่สุด
ฉีดวัคซีน HPV ครบตามแพทย์แนะนำ
ตรวจ Pap Smear หรือ HPV DNA เป็นประจำ
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (ใช้ถุงยางอนามัย)
งดสูบบุหรี่และดูแลสุขภาพโดยรวม
พบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือปวดท้องน้อยบ่อย ๆ
มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที ่ “ป้องกันได้” เพียงแค่ตรวจ Pap Smear หรือ HPV DNA เป็นประจำ และฉีดวัคซีน HPV ให้ครบ ก็สามารถลดความเสี่ยงได้มากกว่า 90%