
มะเร็งลำไส้ใหญ่: ตรวจเร็วด้วยการส่องกล้อง ลดเสี่ยงได้
colorectal-cancer-screening-colonoscopy

มะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ส่งสัญญาณเตือน — แต่เราตรวจพบมันได้ก่อนจะสายเกินไป”
มะเร็งลำไส้ใหญ่คืออะไร
มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal Cancer) เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในเยื่อบุลำไส้จนกลายเป็นติ่งเนื้อ (Polyp) แล้วค่อย ๆ พัฒนาเป็นมะเร็งในระยะเวลา 5–10 ปี
ในประเทศไทย มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่พบบ่อย อันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 3 ในเพศหญิงโดยมีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 18,000 คนต่อปี (ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ, 2566)
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยในระยะต้น “ไม่มีอาการ”จึงควรตรวจเชิงป้องกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มโอกาสหายขาด ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่
ประเภท | รายละเอียด |
พันธุกรรม | มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือมีติ่งเนื้อในลำไส้ |
อายุ | พบมากในคนอายุ 45 ปีขึ้นไป |
พฤติกรรมการกิน | กินเนื้อแดง ของทอด หรืออาหารแปรรูปบ่อย ขาดผักผลไม้ |
โรคประจำตัว | ลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD) หรือมีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ |
การไม่ออกกำลังกาย | ทำให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายช้าลง |
กว่า 70% ของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่สามารถปรับได้
การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
1️⃣ ตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (FIT Test)
เป็นการตรวจหาเลือดที่ปนอยู่ในอุจจาระ แม้ในปริมาณเล็กน้อยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเหมาะสำหรับใช้ตรวจเบื้องต้นทุกปี โดยเฉพาะในคนอายุ 45 ปีขึ้นไป
2️⃣ การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)
เป็นวิธีตรวจที่แม่นยำที่สุด สามารถเห็นภายในลำไส้โดยตรงและหากพบติ่งเนื้อ แพทย์สามารถตัดออกได้ทันทีระหว่างการตรวจ
กลุ่มอายุ | ความถี่แนะนำ |
45 ปีขึ้นไป | ทุก 5–10 ปี |
กลุ่มเสี่ยงสูง | ทุก 3–5 ปี |
เทคโนโลยีส่องกล้องรุ่นใหม่ใช้ยานอนหลับ ไม่เจ็บ ใช้เวลาเพียง 30 นาที และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
แนวทางการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
แนวทางการรักษาจะพิจารณาจากชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
วิธีรักษา | จุดเด่น |
การผ่าตัด (Surgery) | ตัดเฉพาะส่วนที่มีมะเร็งออกและเชื่อมลำไส้กลับเข้าที่ |
รังสีรักษา (Radiation Therapy) | ใช้รังสีทำลายเซลล์มะเร็ง เหมาะกับมะเร็งในลำไส้ตรง |
เคมีบำบัด (Chemotherapy) | ใช้ยาควบคุมหรือทำลายเซลล์มะเร็งทั่วร่างกาย |
ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) | ทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็ง ลดผลข้างเคียง |
ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) | กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับมะเร็งเอง |
การรักษาในระยะเริ่มต้นสามารถหายขาดได้เกิน 90% และผู้ป่วยส่วนใหญ่กลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็ว
การป้องกันด้วยพฤติกรรม
เพิ่มผักและผลไม้ในทุกมื้อ เพื่อเพิ่มไฟเบอร์และช่วยขับสารพิษ
ลดเนื้อแดงและของทอด เพื่อลดไขมันสะสมในลำไส้
ออกกำลังกายวันละ 30 นาที เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
ดื่มน้ำมากพอ อย่างน้อยวันละ 6–8 แก้ว
ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปี
มะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องน่ากลัว เพราะ “รู้เร็ว รักษาไว” คือทางออกที่ดีที่สุด